-รัฐบาลไทยได้จัดตั้ง บริษัทไทยโทรทัศน์ เรียกว่า สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง4บางขุนพรหมออกอากาศครั้งแรกปีพ.ศ.๒๔๙๘ระบบขาว-ดำ๕๒๕เส้น
-พ.ศ.๒๕๑๖-๒๕๒๕เป็นยุคโทรทัศน์เอกชน
-๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙เกิดการฆ่านักศึกษาธรรมศาสตร์โดยรายการข่าวล่ามาเร็วช่อง๙ รัฐบาลจึงมีการควบเนื้อหาให้ประชาชนเกิดความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัติย์และให้มีข่าวภาคคำเวลา ๒0.00น.
-พ.ศ.๒๕๑๘กำหนดให้มีโฆษณาได้ไม่เกิน๑0นาที/ชั้วโมง
-พ.ศ.๒๕๒0 อสมท.ดำเนินธุรกิจในนามรัฐบาลยึดช่อง๙เป็น๙อสมท.โดยอ้างว่าเพื่อแก้ไขปัญหาขาดทุน
-พ.ศ.๒๕๒๖-๒๕๓๔เป็นยุคโทรทัศน์เฟื่องฟูมีการตั้งสถาวัดบางจังหวัดอาทิ ช่อง๔ จ.อุบล
-พ.ศ.๒๕๓0มีพรบ.อนุญาตให้แพร่ภาพผ่านเคเบิลและสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
-พ.ศ.๒๕๓๕มีกระแสให้เปิดเสรีโทรทัศน์โดยรัฐบาลอนัลยกเลิกการตรวจเซนเซอร์ของโทรทัศน์แต่ให้ทางสถานีตรวจสอบคุณภาพด้วยตัวเอง
-๑๗เม.ย.๒๕๓๒อสมท.และยูบีซีได้ทำสัญญาสัมปทานร่วมกัน ร้อยละ๖๕-พ.ศ.๒๕๓๓ประเทศไทยมีดาวเทียมของ บริษัทชินวัตร แซทเทลไลน์ จำกัดโดยสามารถส่งผ่านดาวเทียม
-สมัยนายก ชวน หลีกภัย ให้มีการติดตั้งระบบ ยูเฮทเอฟ
-พ.ศ.๒๕๔0 รัฐบาลจัดตั้งองกรอิสระขึ้นสำหรับการโทรคมและโทรทัศน์
วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551
หลักการส่งและรับสัญญาณโทรทัศน์
เครื่องส่งโทรทัศน์
สัญญาณด้านภาพ
กล้องถ่ายภาพ เรียกว่า แคมเมอร่า ทิ้ว จะดำเนินการถ่ายภาพต่างๆ เข่น คน วิว หรือวัตถุต่างๆ กล้องถ่ายจะเปลี่ยนจากภาพต่างๆ มาเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าของภาพซึ่งเรียกว่า วิดีโอ ซิกแนล แล้วก็จะนำเอา วิดีโอ ซิกแนล นี้ไปขยายให้มีกำลังสูงขึ้นในภาค วิดีโอแอมป์ ต่อไป
และในขณะเดียวกันก็จะนำเอาสัญญาณวิดีโอซิกแนล ที่ได้ ไปรวมกับสัญญาณควบคุมเพื่อบังคับ การสแกน ซึ่งสัญญาณนี้เรียกว่า ซิงค์โครไนเซซั่น นั้นหมายความว่าสัญญาณ วิดีโอ ซิกแนล จะรวมกันอยู่ในสัญญาณซิงค์โครไนเซซั่น และสัญญาณนี้จะเป็นสัญญาณภาพที่สมบูรณ์ เรียกว่า คอมโพสิต วิดีโอ ซิกแนล
การ มอดูเลชั่น เนื่องจากวิดีโอ ซิกแนล ไม่สามารถจะออกอากาศได้ ดังนั้นจึงต้องนำไปรวมกับคลื่นพาหะเสียก่อนซึ่ง เรียกว่า แคร์เรีย หรือนำไปรวมกับคลื่นวิทยุ เมื่อนำเอาวิดีโอ ซิกแนล ไปรวมกับ แคร์เรีย จึง เรียกสัญญาณนี้ว่า วิดีโอ แคร์เรีย
การมอดูเลชั่นด้านภาพ เป็นการมอดูเลชั่น แบบ เอ-เอ็ม วิดีโอ แคร์เรีย กำลังยังน้อยมากจะต้องนำไปขยายให้มีกำลังเพียงพอต่อความต้องการ ในวงจร อาร์ เอฟ แอมป์ ก่อนและ เมื่อ วิดีโอแคร์เรีย ถูกขยายแล้วก็จะส่งไปที่สายอากาศ เพื่อให้สายอากาศกระจายสัญญาณวิดีโอแคร์เรีย ออกอากาศไป
สัญญาณด้านเสียง
ไมโครโฟน เมื่อมีสัญญาณเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น เสียงพูด เสียงดนตรี ไมโครโฟนนี้ก็จะทำหน้าที่ เปลี่ยนจากเสียงมาเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าของเสียง ซึ่งเราเรียกว่า ซาวด์ซิกแนล เนื่องจากซาวด์ซิกแนลมีกำลังน้อยมาก เราจึงต้องนำไปขยายให้มีกำลังสูงขึ้น ในภาคออดิโอแอมป์ ก่อนเพื่อให้ซาวด์ซิกแนล มีกำลังตามต้องการ
การมอดูเลชั่น ซาวด์ซิกแนล โดยจะไม่สามารถออกอากาศได้ จะต้องนำไปรวมกับคลื่นวิทยุเสียก่อน เมื่อนำเอาซาวด์ซิกแนล ไปรวมกับแคร์เรีย เราจึงเรียกสัญญาณนี้ว่า ซาวด์แคร์เรีย การมอดูเลชั่น ด้านสัญญาณเสียงเป็นแบบเอฟ เอ็ม
ซาวด์แคร์เรีย นำไปขยายให้มีกำลังเพียงพอต่อความต้องการในภาค อาร์ เอฟ แอมป์ เมื่อซาด์ แคร์เรีย ถูกขยายแล้ว ก็จะส่งสัญญาณไปที่สายอากาศ เพื่อให้สายอากาศกระจายสัญญาณ ซาวด์ แคร์เรีย ออกอากาศ
การรับโทรทัศน์ขาวดำ
ด้านสัญญาณเสียง
ในการรับสัญญาณของโทรทัศน์ขาว-ดำ สัญญาณด้านเสียงจะเข้าภาค ซาวด์ดีเทคเตอร์ ก่อนการดีเทคเตอร์ จะเป็นแบบ เอฟ เอ็ม ดีเทคเตอร์ ซึ่งวิธีการดีเทคเตอร์นี้ก็คือการตัดหรือบายพาส แคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้น สัญญาณด้านเสียงขณะนี้จะเหลือ ซาวด์ซิกแนล หรือ สัญญาณทางไฟฟ้าของเสียง ออดิโอแอมป์ จะเป็นภาคขยายเสียง โดยการนำเอา ซาวด์ ซิกแนล มาทำการขยายกำลังให้สูงขึ้น เพียงพอต่อความต้องการ แล้วส่ง ซาวด์ ซิกแนล ที่ถูกขยายแล้วต่อไปยังลำโพง
ลำโพง และเมื่อมีสัญญาณทางไฟฟ้าของเสียง หรือ ซาวด์ ซิกแนล นี้นะครับ มาต่อเข้าลำโพงแล้ว ลำโพงก็จะทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณทางไฟฟ้าของสียงให้เป็นเสียงให้ได้ยิน
ด้านสัญญาณภาพ
ในการรับสัญญาณของโทรทัศน์ขาว-ดำนี้ สัญญาณด้านภาพก็จะเข้าสู่ วิดีโอดีเทคเตอร์ ในการรับสัญญาณของโทรทัศน์ขาว-ดำนี้ ซึ่งการดีเทคเตอร์ ก็จะเป็นแบบ เอ เอ็ม ดีเทคเตอร์ โดยวิธีการ ดีเทคเตอร์ ก็คือการตัดหรือบายพาส แคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้นสัญญาณด้านภาพขณะนี้จะเหลือ วิดีโอซิกแนล หรือ สัญญาณทางไฟฟ้าของภาพ
วิดีโอแอมป์ ก็จะเป็นภาคขยายสัญญาณด้านภาพ โดยนำเอา วิดีโอ ซิกแนล มากทำการขยายกำลังให้สูงขึ้นครับเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ แล้วก็ส่ง วิดีโอ ซิกแนล ที่ถูกขยายแล้วให้กับหลอดภาพ
หลอดภาพ เมื่อมีสัญญาณทางไฟฟ้าของภาพหรือ วิดีโอ ซิกแนล มาต่อเข้าหลอดภาพแล้วหลอดภาพจะทำหน้าที่ โดยการเปลี่ยนจากสัญญาณทางไฟฟ้าของภาพให้เป็นภาพ
การรับโทรทัศน์สี
สัญญาณจากสถานีส่งนี้นะครับก็จะประกอบด้วยสัญญาณหลักๆ 2 สัญญาณด้วยกันนะครับซึ่งก็คือ
• อันแรกสัญญาณด้านเสียง
• อันที่สองก็คือสัญญาณด้านภาพ คือ
1. สัญญาณด้านขาว-ดำ
2. สัญญาณด้านสี
3. สัญญาณซิงค์โครไนเซชั่น
สัญญาณเหล่านี้จะเข้ามาที่สายอากาศ และก็จะเข้าสู่วงจรของเครื่องรับ คือ จูนเนอร์ครับ จูนเนอร์จะเลือกรับสถานีที่ต้องการ และดำเนินวิธีการของจูนเนอร์จะได้สัญญาณเอาต์พุต จูนเนอร์ ก็คือ VIF และ SIF
สัญญาณด้านเสียง
สัญญาณด้านเสียงนี้ก็จะเข้าสู่วงจร ซาวด์ ดีเทคเตอร์ หรือว่า เอฟ เอ็ม ดีเทคเตอร์ การดีเทคเตอร์นี้ก็คือการตัดหรือบายพาสสัญญาณ อาร์เอฟ หรือแคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้นสัญญาณด้านเสียงขณะนี้ก็จะเหลือเฉพาะ ซาวด์ซิกแนล เพื่อส่งไปขยายเสียงต่อไป
ออดีโอแอมป์ เป็นวงจรขยายเสียง โดยการนำเอา ซาวด์ ซิกแนล มาดำเนินการขยายกำลังให้มีกำลังเพียงพอต่อความต้องการ แล้วหลังจากนั้นก็ทำการส่งต่อไปยังลำโพง
ลำโพง ก็จะทำหน้าที่เปลี่ยนจาก ซาวด์ ซิกแนล มาเป็นเสียงให้เราได้ยิน
สัญญาณด้านภาพ
ส่วนในทาง สัญญาณด้านภาพ ก็จะมีทั้งสัญญาณ ขาว-ดำ และสี รวมมาด้วยกันครับ ก็จะเข้าไปสู่วงจรวิดีโอ ดีเทคเตอร์ วิดีโอ ดีเทคเตอร์ ภาพวิดีโอ ดีเทคเตอร์ จะทำการตัดสัญญาณอาร์เอฟ หรือแคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้น สัญญาณด้านภาพขณะนี้จะเหลือเฉพาะ Compositen Video Signal จากนั้นสัญญาณ ขาว-ดำ และสีจะทำการแยกออกจากกัน
ด้านขาว-ดำ หรือ ลูมิแนนซ์
ด้านขาว-ดำ ก็จะผ่าน ดีเลย์ไลน์ ซึ่งดีเลย์ไลน์นี้ก็จะทำการหน่วงสัญญาณขาว-ดำ ให้ช้าลง เนื่องจากในด้านสีนั้นมีวงจรที่สลับซับซ้อนมาก ซึ่งทำให้การทำงานต้องใช้เวลานาน ดังนั้นเพื่อให้สัญญาณขาว-ดำ ไปพบกับสัญญาณพอดีในตอนรวมกันเข้า จึงจำเป็นที่จะต้องหน่วงสัญญาณขาว-ดำ ไว้ก่อน
ลูมิแนนซ์ ก็คือ การขยายสัญญาณขาว-ดำ จะมีภาพขยายเพียง 2-3 ภาค ก็จะสมบูรณ์ และก็จะส่งไปรอรวมกับสัญญาณสีที่วงจรเมตริกซ์ต่อไป
ด้านสัญญาณสีหรือโครมิแนนซ์
ส่วนในด้านสัญญาณสีนี่ก็จะมีกรรมวิธีหรือ ขั้นตอนการทำงานค่อนข้องจะสลับซับซ้อนมากนะครับ ก็คือนำเอาสัญญาณ R-Y และ B-Y มาดำเนินการตามขั้นตอน และสร้างสัญญาณ G-Y ขึ้นมาครับ และก็จะทำให้ได้สัญญาณสีหลักคือ สัญญาณสีแดง สัญญาณสีเขียว และสัญญาณสีน้ำเงิน แล้วนำไปรวมกับสัญญาณด้านขาว-ดำ ที่วงจร เมตริกซ์ต่อไป
วงจรเมตริกซ์ ก็จะทำการผสมสัญญาณขาว-ดำ และสัญญาณสีเข้าด้วยกัน แล้วจึงส่งต่อให้หลอดภาพสี ต่อไป
หลอดภาพสี
หลอดภาพที่นำเอาแม่สีหลัก คือ แม่สีแดง สีเขียว และแม่สีน้ำเงิน แล้วดำเนินการตามกรรมวีธีของหลอดภาพสีครับ แม่สีต่างๆ จะทำการผสมสีที่หน้าจอภาพเพื่อให้มองเห็นเป็นภาพสี
สัญญาณด้านภาพ
กล้องถ่ายภาพ เรียกว่า แคมเมอร่า ทิ้ว จะดำเนินการถ่ายภาพต่างๆ เข่น คน วิว หรือวัตถุต่างๆ กล้องถ่ายจะเปลี่ยนจากภาพต่างๆ มาเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าของภาพซึ่งเรียกว่า วิดีโอ ซิกแนล แล้วก็จะนำเอา วิดีโอ ซิกแนล นี้ไปขยายให้มีกำลังสูงขึ้นในภาค วิดีโอแอมป์ ต่อไป
และในขณะเดียวกันก็จะนำเอาสัญญาณวิดีโอซิกแนล ที่ได้ ไปรวมกับสัญญาณควบคุมเพื่อบังคับ การสแกน ซึ่งสัญญาณนี้เรียกว่า ซิงค์โครไนเซซั่น นั้นหมายความว่าสัญญาณ วิดีโอ ซิกแนล จะรวมกันอยู่ในสัญญาณซิงค์โครไนเซซั่น และสัญญาณนี้จะเป็นสัญญาณภาพที่สมบูรณ์ เรียกว่า คอมโพสิต วิดีโอ ซิกแนล
การ มอดูเลชั่น เนื่องจากวิดีโอ ซิกแนล ไม่สามารถจะออกอากาศได้ ดังนั้นจึงต้องนำไปรวมกับคลื่นพาหะเสียก่อนซึ่ง เรียกว่า แคร์เรีย หรือนำไปรวมกับคลื่นวิทยุ เมื่อนำเอาวิดีโอ ซิกแนล ไปรวมกับ แคร์เรีย จึง เรียกสัญญาณนี้ว่า วิดีโอ แคร์เรีย
การมอดูเลชั่นด้านภาพ เป็นการมอดูเลชั่น แบบ เอ-เอ็ม วิดีโอ แคร์เรีย กำลังยังน้อยมากจะต้องนำไปขยายให้มีกำลังเพียงพอต่อความต้องการ ในวงจร อาร์ เอฟ แอมป์ ก่อนและ เมื่อ วิดีโอแคร์เรีย ถูกขยายแล้วก็จะส่งไปที่สายอากาศ เพื่อให้สายอากาศกระจายสัญญาณวิดีโอแคร์เรีย ออกอากาศไป
สัญญาณด้านเสียง
ไมโครโฟน เมื่อมีสัญญาณเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น เสียงพูด เสียงดนตรี ไมโครโฟนนี้ก็จะทำหน้าที่ เปลี่ยนจากเสียงมาเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าของเสียง ซึ่งเราเรียกว่า ซาวด์ซิกแนล เนื่องจากซาวด์ซิกแนลมีกำลังน้อยมาก เราจึงต้องนำไปขยายให้มีกำลังสูงขึ้น ในภาคออดิโอแอมป์ ก่อนเพื่อให้ซาวด์ซิกแนล มีกำลังตามต้องการ
การมอดูเลชั่น ซาวด์ซิกแนล โดยจะไม่สามารถออกอากาศได้ จะต้องนำไปรวมกับคลื่นวิทยุเสียก่อน เมื่อนำเอาซาวด์ซิกแนล ไปรวมกับแคร์เรีย เราจึงเรียกสัญญาณนี้ว่า ซาวด์แคร์เรีย การมอดูเลชั่น ด้านสัญญาณเสียงเป็นแบบเอฟ เอ็ม
ซาวด์แคร์เรีย นำไปขยายให้มีกำลังเพียงพอต่อความต้องการในภาค อาร์ เอฟ แอมป์ เมื่อซาด์ แคร์เรีย ถูกขยายแล้ว ก็จะส่งสัญญาณไปที่สายอากาศ เพื่อให้สายอากาศกระจายสัญญาณ ซาวด์ แคร์เรีย ออกอากาศ
การรับโทรทัศน์ขาวดำ
ด้านสัญญาณเสียง
ในการรับสัญญาณของโทรทัศน์ขาว-ดำ สัญญาณด้านเสียงจะเข้าภาค ซาวด์ดีเทคเตอร์ ก่อนการดีเทคเตอร์ จะเป็นแบบ เอฟ เอ็ม ดีเทคเตอร์ ซึ่งวิธีการดีเทคเตอร์นี้ก็คือการตัดหรือบายพาส แคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้น สัญญาณด้านเสียงขณะนี้จะเหลือ ซาวด์ซิกแนล หรือ สัญญาณทางไฟฟ้าของเสียง ออดิโอแอมป์ จะเป็นภาคขยายเสียง โดยการนำเอา ซาวด์ ซิกแนล มาทำการขยายกำลังให้สูงขึ้น เพียงพอต่อความต้องการ แล้วส่ง ซาวด์ ซิกแนล ที่ถูกขยายแล้วต่อไปยังลำโพง
ลำโพง และเมื่อมีสัญญาณทางไฟฟ้าของเสียง หรือ ซาวด์ ซิกแนล นี้นะครับ มาต่อเข้าลำโพงแล้ว ลำโพงก็จะทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณทางไฟฟ้าของสียงให้เป็นเสียงให้ได้ยิน
ด้านสัญญาณภาพ
ในการรับสัญญาณของโทรทัศน์ขาว-ดำนี้ สัญญาณด้านภาพก็จะเข้าสู่ วิดีโอดีเทคเตอร์ ในการรับสัญญาณของโทรทัศน์ขาว-ดำนี้ ซึ่งการดีเทคเตอร์ ก็จะเป็นแบบ เอ เอ็ม ดีเทคเตอร์ โดยวิธีการ ดีเทคเตอร์ ก็คือการตัดหรือบายพาส แคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้นสัญญาณด้านภาพขณะนี้จะเหลือ วิดีโอซิกแนล หรือ สัญญาณทางไฟฟ้าของภาพ
วิดีโอแอมป์ ก็จะเป็นภาคขยายสัญญาณด้านภาพ โดยนำเอา วิดีโอ ซิกแนล มากทำการขยายกำลังให้สูงขึ้นครับเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ แล้วก็ส่ง วิดีโอ ซิกแนล ที่ถูกขยายแล้วให้กับหลอดภาพ
หลอดภาพ เมื่อมีสัญญาณทางไฟฟ้าของภาพหรือ วิดีโอ ซิกแนล มาต่อเข้าหลอดภาพแล้วหลอดภาพจะทำหน้าที่ โดยการเปลี่ยนจากสัญญาณทางไฟฟ้าของภาพให้เป็นภาพ
การรับโทรทัศน์สี
สัญญาณจากสถานีส่งนี้นะครับก็จะประกอบด้วยสัญญาณหลักๆ 2 สัญญาณด้วยกันนะครับซึ่งก็คือ
• อันแรกสัญญาณด้านเสียง
• อันที่สองก็คือสัญญาณด้านภาพ คือ
1. สัญญาณด้านขาว-ดำ
2. สัญญาณด้านสี
3. สัญญาณซิงค์โครไนเซชั่น
สัญญาณเหล่านี้จะเข้ามาที่สายอากาศ และก็จะเข้าสู่วงจรของเครื่องรับ คือ จูนเนอร์ครับ จูนเนอร์จะเลือกรับสถานีที่ต้องการ และดำเนินวิธีการของจูนเนอร์จะได้สัญญาณเอาต์พุต จูนเนอร์ ก็คือ VIF และ SIF
สัญญาณด้านเสียง
สัญญาณด้านเสียงนี้ก็จะเข้าสู่วงจร ซาวด์ ดีเทคเตอร์ หรือว่า เอฟ เอ็ม ดีเทคเตอร์ การดีเทคเตอร์นี้ก็คือการตัดหรือบายพาสสัญญาณ อาร์เอฟ หรือแคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้นสัญญาณด้านเสียงขณะนี้ก็จะเหลือเฉพาะ ซาวด์ซิกแนล เพื่อส่งไปขยายเสียงต่อไป
ออดีโอแอมป์ เป็นวงจรขยายเสียง โดยการนำเอา ซาวด์ ซิกแนล มาดำเนินการขยายกำลังให้มีกำลังเพียงพอต่อความต้องการ แล้วหลังจากนั้นก็ทำการส่งต่อไปยังลำโพง
ลำโพง ก็จะทำหน้าที่เปลี่ยนจาก ซาวด์ ซิกแนล มาเป็นเสียงให้เราได้ยิน
สัญญาณด้านภาพ
ส่วนในทาง สัญญาณด้านภาพ ก็จะมีทั้งสัญญาณ ขาว-ดำ และสี รวมมาด้วยกันครับ ก็จะเข้าไปสู่วงจรวิดีโอ ดีเทคเตอร์ วิดีโอ ดีเทคเตอร์ ภาพวิดีโอ ดีเทคเตอร์ จะทำการตัดสัญญาณอาร์เอฟ หรือแคร์เรีย ลงกราวด์ ดังนั้น สัญญาณด้านภาพขณะนี้จะเหลือเฉพาะ Compositen Video Signal จากนั้นสัญญาณ ขาว-ดำ และสีจะทำการแยกออกจากกัน
ด้านขาว-ดำ หรือ ลูมิแนนซ์
ด้านขาว-ดำ ก็จะผ่าน ดีเลย์ไลน์ ซึ่งดีเลย์ไลน์นี้ก็จะทำการหน่วงสัญญาณขาว-ดำ ให้ช้าลง เนื่องจากในด้านสีนั้นมีวงจรที่สลับซับซ้อนมาก ซึ่งทำให้การทำงานต้องใช้เวลานาน ดังนั้นเพื่อให้สัญญาณขาว-ดำ ไปพบกับสัญญาณพอดีในตอนรวมกันเข้า จึงจำเป็นที่จะต้องหน่วงสัญญาณขาว-ดำ ไว้ก่อน
ลูมิแนนซ์ ก็คือ การขยายสัญญาณขาว-ดำ จะมีภาพขยายเพียง 2-3 ภาค ก็จะสมบูรณ์ และก็จะส่งไปรอรวมกับสัญญาณสีที่วงจรเมตริกซ์ต่อไป
ด้านสัญญาณสีหรือโครมิแนนซ์
ส่วนในด้านสัญญาณสีนี่ก็จะมีกรรมวิธีหรือ ขั้นตอนการทำงานค่อนข้องจะสลับซับซ้อนมากนะครับ ก็คือนำเอาสัญญาณ R-Y และ B-Y มาดำเนินการตามขั้นตอน และสร้างสัญญาณ G-Y ขึ้นมาครับ และก็จะทำให้ได้สัญญาณสีหลักคือ สัญญาณสีแดง สัญญาณสีเขียว และสัญญาณสีน้ำเงิน แล้วนำไปรวมกับสัญญาณด้านขาว-ดำ ที่วงจร เมตริกซ์ต่อไป
วงจรเมตริกซ์ ก็จะทำการผสมสัญญาณขาว-ดำ และสัญญาณสีเข้าด้วยกัน แล้วจึงส่งต่อให้หลอดภาพสี ต่อไป
หลอดภาพสี
หลอดภาพที่นำเอาแม่สีหลัก คือ แม่สีแดง สีเขียว และแม่สีน้ำเงิน แล้วดำเนินการตามกรรมวีธีของหลอดภาพสีครับ แม่สีต่างๆ จะทำการผสมสีที่หน้าจอภาพเพื่อให้มองเห็นเป็นภาพสี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)